วิธีเลือกสถาบันสอนภาษา ที่มีคอร์สเรียนสำหรับเด็ก

พ่อแม่ ผู้ปกครองในยุคสมัยใหม่ เลือกที่จะส่งให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเนื้อหาตามหลักสูตรภาคบังคับในโรงเรียนอาจจะไม่เพียงพอต่อการปูพื้นฐานหรือการนำไปใช้จริงในอนาคต คอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กจึงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลาย ๆ สถาบันสอนภาษาก็มีคอร์สเรียนสำหรับเด็กรองรับแล้ว

วิธีเลือกสถาบันสอนภาษาสำหรับเด็ก

1. เลือกจากหลักสูตรการสอน

เลือกสถาบันสอนภาษาที่มีหลักสูตรหรือคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เนื้อหามีความครอบคลุมทุก ๆ ทักษะที่จำเป็น ได้แก่ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อปูพื้นฐานให้กับเด็กอย่างรอบด้าน

2. ครูผู้สอนสำหรับเด็กโดยเฉพาะ

การสอนเด็ก ๆ เป็นเรื่องที่ยากต่อการรับมือ เพราะธรรมชาติของเด็กจะมีความอยากรู้อยากเห็น มีความสงสัย และไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้เหมือนกับผู้ใหญ่ จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ มีความเข้าใจธรรมชาติของเด็ก และมีวิธีการรับมือกับเด็ก โดยที่ไม่สร้างปมหรือบาดแผลในใจให้กับเด็ก ๆ

3. เรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ

การจัดกลุ่มการเรียนการสอนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ จะทำให้เด็กมีความกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น ครูผู้สอนเองก็จะสามารถดูแลเด็กทุกคนได้อย่างทั่วถึง และเมื่อมีการตอบคำถามหรือทดสอบก็จะสามารถตรวจสอบทีละคน ได้ เพื่อการเรียนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

4. มีกิจกรรมร่วมกับการเรียน

นอกจากหลักสูตรที่มีคุณภาพแล้ว การมีกิจกรรมร่วมกับการเรียนการสอน จะทำให้เด็กมีความสนใจในชั้นเรียนมากยิ่งขึ้น เพราะสำหรับเด็กแล้ว การนั่งเรียนหรือฟังบรรยายเฉย ๆ อาจจะไม่ทำให้เกิดการเรียนรู้เท่ากับการได้ลงมือทำร่วมกับเพื่อน ๆ หรือครูผู้สอน

5. เดินทางสะดวก

ท่ามกลางสังคมที่มีแต่ความเร่งรีบ การเลือกสถาบันสอนภาษาที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีหลากหลายเส้นทางให้เลือก หรืออาจจะเลือกเป็นสถาบันสอนภาษาที่อยู่ใกล้บ้าน มั่นใจได้ว่าแม้ในวันที่เร่งรีบหรือมีเหตุสุดวิสัยก็สามารถพาลูกไปเรียนได้ทันเวลา

6. มีเวลาให้เลือกหลากหลาย

ควรเลือกสถาบันสอนภาษาที่มีตารางเวลาเรียนให้เลือกอย่างหลากหลาย เพราะเวลาว่างของแต่ละคนอาจจะไม่ตรงกัน และควรจะเลือกช่วงเวลาเรียนที่มีการเผื่อเวลาในการเดินทางไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น ช่วงหลังเลิกเรียนของลูก หรือหลังเลิกงานของผู้ปกครอง

7. ค่าใช้จ่ายในคอร์สเรียน

ผู้ปกครองสามารถประเมินความคุ้มค่าของคอร์สเรียนได้จากการนำค่าใช้จ่ายมาหารจำนวนชั่วโมง เพื่อดูว่ามีความคุ้มค่า หรือเพียงพอต่องบประมาณที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันก็สามารถสอบถามทางเว็บไซต์หรือเบอร์โทรติดต่อของแต่ละสถาบันได้ง่ายและสะดวกอย่างมาก

8. ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ

เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการเลือกสถาบันสอนภาษาให้กับลูก เพราะชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือจะช่วยเสริมความมั่นใจว่าการเรียนในคอร์สเรียนนั้น ๆ จะทำให้ลูกมีการพัฒนาที่ดีขึ้น และมีความคิดเห็นจากผู้เรียนจริง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ